งานบิ้วอิน VS เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เลือกแบบไหนดี
ก่อนตัดสินใจบิ้วอินบ้าน มาดูความแตกต่างกันค่ะ
1. ความสวยงามและความเข้ากันของดีไซน์
บิ้วอิน:
งานบิ้วอินจะออกแบบให้เข้ากับพื้นที่จริงทุกมุม ทุกเซนติเมตร ทำให้ภาพรวมของห้องดูเป็นระเบียบ
เรียบหรู และสวยต่อเนื่อง เหมือนออกแบบโดยนักอินทีเรียระดับมืออาชีพ
ลอยตัว:
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอาจมีหลายสไตล์ให้เลือก แต่บางครั้งอาจไม่พอดีกับพื้นที่จริง
ทำให้ห้องดูไม่เนียนตา มีช่องว่างระหว่างตู้กับผนัง หรือสัดส่วนไม่สัมพันธ์กัน
2. การใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า
บิ้วอิน:
ใช้พื้นที่ได้เต็ม 100% ไม่ว่าจะเป็นมุมเอียง, ช่องแคบ, เหนือประตู
หรือใต้บันได ทำให้ได้ฟังก์ชันเพิ่มแบบไม่เสียพื้นที่ทิ้งเปล่า
ลอยตัว:
ขนาดมาตรฐานอาจไม่พอดีกับพื้นที่เฉพาะ ทำให้เกิดเหลือพื้นที่ทิ้งไว้
หรือบางครั้งต้องยอมเสียฟังก์ชันบางอย่าง เพราะตู้ลอยตัวไม่สามารถดัดแปลงได้
3. ความแข็งแรงและอายุการใช้งาน
บิ้วอิน:
ติดตั้งยึดกับผนังแน่น แข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี ใช้วัสดุคุณภาพสูง และเลือกได้ตามงบ
เช่น MCM ปิดผิว, ไม้จริง, ไม้อัด, อลูมิเนียม ฯลฯ อายุใช้งานยาวนาน
ลอยตัว:
โครงสร้างมักบางกว่าเพื่อให้เคลื่อนย้ายง่าย อาจไม่แข็งแรงเท่าแบบบิ้วอิน
โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ราคาไม่สูงที่ขายตามห้างหรือออนไลน์
4. ความยืดหยุ่นในการใช้งาน
บิ้วอิน:
ดีไซน์ทุกอย่างตามไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ เช่น ช่องเก็บของเฉพาะทาง, ตู้สูงพิเศษ, ช่องซ่อน
ลิ้นชักแบบ soft-close แต่เมื่อทำแล้วมักเปลี่ยนตำแหน่งไม่ได้
ลอยตัว:
สามารถย้ายจัดใหม่ได้ตลอด ย้ายบ้านก็เอาไปใช้ต่อได้ ปรับเลย์เอาท์
เปลี่ยนฟีลได้ง่ายเหมาะสำหรับคนชอบรีโนเวทบ่อย ๆ
5. เรื่องการทำความสะอาดและกันชื้น
บิ้วอิน:
ปิดช่องว่างทุกด้าน ไม่เกิดฝุ่นสะสมหลังตู้หรือใต้ตู้ และสามารถเลือกใช้วัสดุกันชื้น กันปลวก
เช่น อลูมิเนียมเฟรม, แผ่นรองตู้ครัว, งาน PVC หรือไฮกรอส
ลอยตัว:
มีช่องว่างหลังตู้ ใต้ตู้ ทำให้เกิดฝุ่นและเชื้อราได้ง่าย โดยเฉพาะตู้ครัวและตู้เสื้อผ้า
6. ความเหมาะสมกับประเภทห้อง
บิ้วอิน:
เหมาะกับคอนโด, ห้องนอน, ห้องแต่งตัว, ห้องครัว
และพื้นที่ที่ต้องการดีไซน์เฉพาะหรือใช้พื้นที่ให้คุ้มสุด
ลอยตัว:
เหมาะกับบ้านเช่า ห้องเปลี่ยนของบ่อย ๆ หรือคนที่ยังไม่อยากลงทุนเยอะในช่วงเริ่มต้น
สรุป
ถ้าต้องการความพรีเมียม ใช้พื้นที่ให้คุ้ม และดีไซน์สวยแบบมืออาชีพ — เลือกบิ้วอิน
ถ้าต้องการยืดหยุ่น เคลื่อนย้ายง่าย งบประหยัด — เลือกลอยตัว